ทัพเรือภาคที่ 3 ลงพื้นที่ 2 จังหวัด พร้อมจัดเสวนา ทัพเรือภาคที่ 3 และชุมชนชายฝั่งทะเลอันดามัน ร่วมจัดการปัญหาความมั่นคงในทะเลอย่างยั่งยืน

Release Date : 08-11-2021 00:00:00
ทัพเรือภาคที่ 3 ลงพื้นที่ 2 จังหวัด พร้อมจัดเสวนา ทัพเรือภาคที่ 3 และชุมชนชายฝั่งทะเลอันดามัน ร่วมจัดการปัญหาความมั่นคงในทะเลอย่างยั่งยืน

ทัพเรือภาคที่ 3 โดยกองกิจการพลเรือน กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดชุดเดินทางไปยังจังหวัดสตูล และจังหวัดกระบี่ เพื่อพบปะผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา หัวหน้าหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และชาวประมง เพื่อสำรวจทรรศคติของประชาชน และร่วมพูดคุยเสวนาประเด็นเกี่ยวกับการดูแลพื้นที่ทะเลฝั่งอันดามันของไทย ให้มีความมั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ โดยมี นาวาเอก เชษฐา คุ้มเจริญ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นประธานโดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 มีการจัดเสวนาขึ้น ณ โรงเรียนบ้านกาแบง ต.แหลมสน อ.ละงู จว.สตูล โดยมีกำนันตำบลแหลมสน ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน กลุ่มประมงบ้านกาแบง และ กลุ่มประมงบ้านบุโบย เข้าร่วมการเสวนา ซึ่งพบว่าปัญหาหลักๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ คือการที่ชาวประมงพื้นบ้านแจ้งว่า มักจะมีเรือประมงพานิชย์ลักลอบเข้าทำการประมงในพื้นที่ต่ำกว่า 3,000 ม. จากชายฝั่ง ซึ่งเป็นเขตที่ทำการประมงของประมงพื้นบ้าน และสร้างความเสียหายต่อเครื่องมือทำการประมงพื้นบ้าน เช่น เบ็ดหรือลอบ เป็นต้น นอกจากนี้ยังรับทราบถึงปัญหาด้านยาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ และได้ส่งผลต่อเนื่องให้เกิดการลักขโมย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหาต่อไปและในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ได้เดินทางไปจัดการเสวนาขึ้น ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ ชายหาดคลองม่วง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จว.กระบี่ โดยมี ปลัด อบต.หนองทะเล กำนันตำบลหนองทะเล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และ หมู่ 3 โต๊ะอิหม่าม โรงแรมดุสิตธานี หน.รพ.สต.คลองม่วง ผอ.โรงเรียนคลองม่วง เข้าร่วมการเสวนา และปัญหาที่พบก็คือเรือประมงพานิชย์เข้าทำการประมงในพื้นที่ต่ำกว่า 3,000 ม. จากชายฝั่ง เหมือนกับจังหวัดสตูล นอกจากนี้ยังได้มีการทำความเข้าใจในการที่ชาวบ้านจะเข้าพื้นที่บริเวณชายหาดของกรมทหารราบที่ 2 เพื่อทำการประมงหรือการพักผ่อนนั้น ทางหน่วยไม่ได้หวงห้าม แต่จะต้องมีการแลกบัตรเพื่อการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ต่อไป นอกจากนี้แล้ว ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ก็ยังพบปัญหาด้านพายุลมมรสุม ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็ก ที่ในพื้นที่ตำบลหนองทะเล ไม่มีท่าเรือให้จอดหลบคลื่นลมได้เลย อยากให้ส่วนราชการได้พิจารณาจัดสร้างท่าเรือขนาดเล็กให้จอดเรือได้ อีกทั้งยังสามารถเป็นท่าสำหรับขึ้นสัตว์น้ำต่อไปทั้งนี้ในทุกประเด็นปัญหาที่ได้รับการบอกเล่าจากตัวแทนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ นั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ ทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะต้องช่วยกันนำไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุและนำไปสู่การแก้ไขให้ตรงจุด เพื่อความยั่งยืนสืบไป จากการลงพื้นที่เพื่อร่วมเปิดใจเสวนากับผู้แทนชาวบ้าน ผู้แทนศาสนา และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ใน 2 วันนี้นั้น สิ่งที่เราได้รับฟังอยู่บ่อยครั้งก็คือ ชาวบ้านรู้สึกอบอุ่นใจ ที่มีหน่วยทหารเรืออยู่ในพื้นที่ ที่สามารถให้ความช่วยเหลือชาวบ้านได้ในหลายๆ ทาง อาธิ การที่หน่วยได้ส่งกำลังพลเข้ามาพัฒนาทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน ชายหาด ในโอกาสต่างๆ นอกจากนั้นแล้ว เมื่อประชาชนประสบภัยทั้งในทะเลและบนฝั่ง เช่น ต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านก็มาช่วยซ่อมหลังคา เรือประมงจมก็มาช่วยลากเข้าฝั่ง พายุซัดบ้านพังก็รีบมาช่วยซ่อมแซมนับว่าหน่วยทหารเรือในพื้นที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันทีทันใด นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ดีใจที่สุดก็คือ การที่มีจิตกุศล นำถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งสามารถที่จะเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ประสบความลำบากได้เป็นอย่างดี